คุณจะออกเดินทางจาก เจเนวา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เจนีวา และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ โรมา เตอร์มินี ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ โรม.
คุณจะออกเดินทางจาก เจเนวา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เจนีวา และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ โรมา เตอร์มินี ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ โรม.
Embark on an unforgettable train journey from Geneva to Rome, immersing yourself in the breathtaking landscapes and historic charm of Europe. This scenic route offers the shortest duration time, connecting two iconic cities and passing through several important destinations along the way.
Starting from Geneva, the train departs from the Geneva Cornavin Station, a bustling hub located in the heart of the city. As you leave behind the picturesque Swiss Alps, you'll pass through the enchanting towns of Lausanne and Montreux, known for their stunning lake views and historic landmarks.
Continuing southward, the train journey takes you through the incredible Italian cities of Milan and Florence. Milan, a fashion capital renowned for its grand architecture, offers a glimpse into Italy's rich cultural heritage. Florence, the birthplace of the Renaissance, beckons with its iconic art and architecture, including the magnificent Duomo and the Uffizi Gallery.
Finally, as you approach the Eternal City of Rome, you'll be greeted with the awe-inspiring sights of the Colosseum, the Roman Forum, and the Vatican City. Rome's rich history, charming streets, and delectable cuisine make it a must-visit destination for any traveler.
The distance between Geneva and Rome is approximately 750 kilometers, and the journey takes around 6-7 hours. However, the train ride is anything but mundane. The picturesque landscapes of the Swiss and Italian countryside, dotted with charming villages and vineyards, will captivate your senses.
As you depart from Geneva and arrive in Rome, the most iconic item you'll find is the authentic charm and cultural heritage of both cities. From Swiss precision and elegance to the grandeur of Rome's ancient ruins, this train journey offers a delightful blend of history, art, and natural beauty.
Experience the best of Europe's scenic wonders and enriching cultural heritage on this remarkable train journey from Geneva to Rome. Soak in the glorious sights, traverse through historic towns, and create memories that will last a lifetime.
รถไฟจาก เจนีวา ไปยัง โรม ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจาก เจนีวา ถึง โรม มักใช้เวลาประมาณ 7 ถึง 10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนขบวนและเวลาออกเดินทาง.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก เจนีวา ไปยัง โรม โดยรถไฟคืออะไร?
เส้นทางที่เร็วที่สุดโดยรถไฟจาก เจนีวา ไป โรม มักใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง และต้องเปลี่ยนขบวนที่ มิลาน.
รถไฟจาก เจนีวา ไปยัง โรม ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจาก เจนีวา ถึง โรม อาจอยู่ระหว่าง €75 ถึง €200 ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาจองและระดับความสะดวกสบาย.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก เจนีวา ไปยัง โรม หรือไม่?
ไม่ ไม่มีรถไฟตรงจาก เจนีวา ถึง โรม. ผู้โดยสารต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟอย่างน้อยหนึ่งครั้ง.
ระยะทางจาก เจนีวา ไปยัง โรม โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางจาก เจนีวา ถึง โรม โดยรถไฟคือประมาณ 925 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก เจนีวา ไปยัง โรม?
ขึ้นอยู่กับเส้นทางและขบวนรถไฟ แต่การหยุดที่มิลาน เป็นที่นิยมสำหรับการเปลี่ยนแปลงขบวนรถไฟ.
เจนีวา เมืองแห่งแม่น้ำโรนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมจากยุคกลางจนถึงยุคใหม่ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์.
พิพิธภัณฑ์แห่งอาร์ตและประวัติศาสตร์ (Musée d'Art et d'Histoire): หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดใน เจนีวา และมีคอลเลกชันศิลปะที่หลากหลายตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงสมัยใหม่ สถานที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชมฟรี. มหาวิหารเซนต์ปีแยร์ (St. Pierre Cathedral): มหาวิหารหลักของ เจนีวา ที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 850 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและโรมานเอสก์ เปิดทุกวัน และมีการเปิดให้เข้าชมภายในฟรี. พาเลส เดส เนชั่นส์ (Palais des Nations): อาคารที่เป็นศูนย์กลางการทำงานของสหประชาชาติ นอกจากความสำคัญทางการเมืองแล้ว ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco การเยี่ยมชมต้องจองล่วงหน้า. น้ำพุเจนีวา (Jet d'Eau): หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุสูง 140 เมตร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือ Eaux-Vives ไม่มีค่าเข้าชม และเป็นจุดที่สามารถชมวิวของเมืองได้อย่างงดงาม. สวนอังกฤษ (Jardin Anglais): สวนสาธารณะที่มีความสวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเลคจากเนปเชอร์ สวนนี้เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และประติมากรรมต่างๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน. ตลาดเมืองเก่า (Marché de la Vieille Ville): ตลาดที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าขายอาหารท้องถิ่นและสินค้าฝีมือ มีเสน่ห์ด้วยบรรยากาศย้อนยุค เปิดทุกวันเสาร์ทั้งวัน. พิพิธภัณฑ์พาเทค ฟิลิป (Patek Philippe Museum): พิพิธภัณฑ์นาฬิกาที่เล่าเรื่องราวของการผลิตนาฬิกาใน เจนีวา และแสดงนาฬิกาโบราณที่มีค่าที่สุดในโลก ค่าเข้าชม 10€.การเดินทางรอบ เจนีวา จะให้ความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ทำให้ทุกมุมของเมืองมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ท้าทายการค้นหา.
โรม—เมืองที่เต็มไปด้วยความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นที่สุดแห่งการผสานวัฒนธรรมโบราณเข้ากับโลกสมัยใหม่ในทุกมุมมอง.
โคลอสเซียม - อัฒจันทร์ยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของ โรม และเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ โรมัน. ตั้งอยู่ใจกลางเมือง, เปิดเวลา 08:30-19:00, ค่าเข้าชม €16. เคล็ดลับ: ซื้อตั๋วแบบข้ามวันเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด.
พานธีออน - วิหารโบราณที่มีหลังคาโดมขนาดมหึมาที่ยังคงสมบูรณ์ดีที่สุดในโลก. ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก จัตุรัส Piazza della Rotonda, เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย. เคล็ดลับ: เยี่ยมชมในเวลากลางคืนเพื่อชมการส่องสว่างที่งดงาม.
น้ำพุเทรวี - น้ำพุที่ใหญ่ที่สุดใน โรม และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก. ตั้งอยู่ในย่าน Trevi, เป็นที่รู้จักจากประเพณีการโยนเหรียญ. เคล็ดลับ: โยนเหรียญสามเหรียญเพื่อหวังโชคลาภ.
วาติกัน - รัฐอิสระในใจกลาง โรม ที่เป็นที่ตั้งของ พระราชวังวาติกัน และ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์. เปิดเวลา 09:00-18:00, ค่าเข้าชม €17. เคล็ดลับ: จองตั๋วล่วงหน้าออนไลน์เพื่อเลี่ยงคิวยาว.
ฟอรั่มโรมัน - ใจกลางของการเมือง, ศาสนา, และชีวิตสังคมของ โรมันโบราณ. ตั้งอยู่ใกล้ โคลอสเซียม, เปิดเวลา 08:30-19:00, ค่าเข้าชม €12. เคล็ดลับ: ใช้เวลาชมทั้งพื้นที่เพื่อซึมซับบรรยากาศอันน่าหลงใหล.
สเปนิชสเต็ปส์ - บันไดใหญ่ที่นำไปสู่ จัตุรัส Piazza di Spagna, สถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนและชมผู้คน. เคล็ดลับ: เพลิดเพลินกับเจลาโต้ขณะนั่งพักผ่อนที่บันได.
พิพิธภัณฑ์วาติกัน - บ้านของงานศิลปะที่สำคัญมากมายรวมถึง ห้องชุดซิสทีน ที่มีภาพวาดของมิคาเอลแองเจโล. เปิดเวลา 09:00-18:00, ค่าเข้าชม €21. เคล็ดลับ: ใช้เวลาอย่างน้อยหลายชั่วโมงเพื่อชื่นชมผลงานทางศิลปะที่น่าประทับใจ.
การเดินทางไปรอบ โรม นั้นเปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปยังยุคสมัยที่ จักรวรรดิโรมัน ยังคงงดงาม พร้อมด้วยอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ที่ทุกคำชวนให้หลงใหล.
เจนีวา มีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญที่สุดคือ Gare Cornavin นอกจากนี้ยังมีสถานีรองอื่นๆ เช่น Genève Eaux-Vives และ Genève Sécheron ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและเมืองที่สำคัญอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ และต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อคมนาคม อย่างมีประสิทธิภาพต่อทั้งภายในและระหว่างประเทศ
สถานี Gare Cornavin ตั้งอยู่ที่ Place de Cornavin, 1201 Genève ให้บริการเวลาทำการที่ยืดหยุ่นตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่เดินทางไปมา นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกของหนักๆ ติดตัว สถานีนี้ให้บริการครบครัน ซึ่งรวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ใช้บริการ
โรม เป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการเดินทางโดยรถไฟที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูง สถานีหลักที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญคือ สถานีรถไฟเทอร์มินี (Roma Termini) นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟอื่นๆ ที่สำคัญเช่น สถานีรถไฟทิบูร์ตินา (Roma Tiburtina) และ สถานีรถไฟโอสเตียนเซ (Roma Ostiense) ซึ่งทั้งสามสถานีนี้เชื่อมโยงกับเส้นทางต่างๆ ทั่ว ยุโรป อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ สถานีรถไฟเทอร์มินี ตั้งอยู่ที่ Piazza dei Cinquecento, แขวงเอสควิลิโน่, โรม, นักท่องเที่ยวสามารถพบกับบริการต่างๆ ที่ครอบคลุม เช่น บริการเก็บกระเป๋า และข้อมูลการท่องเที่ยว เวลาทำการของสถานีคือ ตั้งแต่ 04:30 น. ถึง 01:30 น. ของวันถัดไป การเดินทางจากสถานีนี้สู่สถานที่ต่างๆ ในเมืองหรือการเดินทางไปยังเมืองอื่นในยุโรปจึงสะดวกสบายและรวดเร็ว
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ